ป่วง


โดย  ยส  พฤกษเวช
  
         ป่วง   เป็นชื่อโรคที่มีมาตั้งแต่โบราณ เป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต  มีอาการคล้ายโรคอหิวาตกโรค  แต่ป่วงไม่ติดต่อ โรคป่วงมีอาการถ่ายอย่างรุนแรงและอาเจียนร่วมด้วย โบราณเรียกทั้งลงทั้งรากหรือเรียกว่าสันนิบาตสองคลอง คนไข้อาจตายเพราะเสียน้ำในร่างกาย


        
          อาการของโรคป่วง  หมอโบราณให้พิจารณาถึงกิริยาอาการของคนไข้  ซึ่งแตกต่างกันไปและอย่าหมายถึงการกินอาหารหรือยาที่แสลงกับธาตุ โบราณเรียกว่าผิดสำแดงหรือแสลง   มีแจ้งในคัมภีร์อติสาร เป็นลักษณะของอชินธาตุ ปัจจุบันเรียกว่าอาหารเป็นพิษนั่นเอง เป็นโรคในระบบทางเดินอาหาร  มีการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ แผนโบราณอาจเรียกว่าอาหารใหม่พิการ  ทำให้ท้องเดิน อาเจียน กระวนกระวาย ริมฝีปากซีดเขียว ขอบตาซีด เสียงแหบ อาจทำให้เป็นตะคริวปลายนิ้วมือและเท้า ปวดท้อง ถ่ายเป็นน้ำ  สำคัญว่าปีศาจกระทำโทษ แต่เหตุเพราะธาตุต้องสำแดง

          อาหารเมื่อถูกย่อยเป็นของเหลว เป็นเสมหะ  เกิดเป็นพิษตามผิวกระเพาะอาหารและลำไส้  จึงทำให้เกิดอาการของป่วง และหากร่างกายขับออกไม่หมดเกิดการหมักหมมอยู่ภายใน  นานวันเข้าอาจทำให้เกิดโรคร้ายตามมา  ดังนั้นเมื่อมีอาการต้องรีบรักษาให้หายและขับเสมหะพิษออกให้หมด  เพื่อป้องกันโรคร้ายในอนาคต

        แนวทางการรักษา  ควรให้ยาที่มีฤทธิ์ร้อน  เพื่อให้เกิดความอบอุ่น  อย่าให้กินของเย็น น้ำเย็น อาหารที่มีรสหวาน รสเปรี้ยว  ให้ยาที่แก้อาเจียนร่วมด้วย  เช่น  ให้น้ำขิงร้อน ๆ จิบกินบ่อย ๆ ถ้ากำลังคนไข้ไม่ดี อ่อนเพลียมาก ลงท้องมาก ควรนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

       ป่วง ๘ ประการ มีดังนี้

๑. ป่วงงู
ท่านให้เร่งกลัว มักบิดตัวตาปรอย ๆ รากลงบ่อยไม่หยุด สี่ยามทรุดโทรมไป ม้วยบรรลัยแม่นมั่น มิฉะนั้นกรรมสนอง เปนสองคลองสันนิบาต แปดยามขาดคงตาย แก้ยักย้ายดูลอง ให้เอากล้องปืนไฟ น้ำร้อนใส่ไว้สักครู่ เทออกดูได้อายดิน มาให้กินดูสักหน เดชะกุศลก็พลันหาย


๒. ป่วงลิง
ย้ายให้ยิงฟัน หาวคางสั่นแน่นหน้าอก รากลงปรกติไปอย่างเดียว  ฝีปากเขียวขอบตาซีด ทำจริตดังวานร เอามือซ่อนกอดอก สี่ยามตกสันนิบาต ในอำนาจมรณา เมล็ดมะกอกผ่าสี่ซีก เปลือกผลส้มโอฉีกเท่ากัน สุพรรณถันบาทหนึ่ง ต้มเขี้ยวกึ่งวารี กินสองทีหายแล


๓. ป่วงลม
แปรหลายอย่าง เสียดสีข้างลงไม่มาก จุกอกรากออกน้ำลาย กระวนกระวายร้อนร้อง สี่ยามต้องตามตำเหน่ง ข่าตาแดงฝนไว้ น้ำปูนใสเปนกระสาย ถ้วยเดียวหายเหมือนว่า

๔. ป่วงศิลา
รักษายาก ให้ลงรากเปนเดิม แล้วมันเพิ่มอาการแรง เมื่อยข้อแทงเสียดยอดอก มือเท้าฟกกดหนังบู้  นิ่งสักครู่แล้วกลับเหียน มักอาเจียนลมเปล่า พูดเสียงเบากลอกหน้าตา ทั้งเข้าปลาไม่รู้รส ลิ้นไก่หดพูดล่อแล่ ท่วงทีแท้ปีศาจสิง แล้วกลับนิ่งนอนแน่ ลวงให้แก้ถึงสามวัน สุพรรณถันบาทหนึ่งดี รากชิงชี่เอาห้าอัน ต้มด้วยกันเขี้ยวกึ่งน้ำ ให้กินซ้ำสักสองถ้วย ถ้าบุญช่วยก็หายหก

๕. ป่วงลูกนก
ลงเหมือนกัน โลมาชันกายสั่นสยอง ให้ปวดท้อง ๆ ลั่นโครก หาวเรอโยกดูลำบาก หงายอ้าปากรากครางไป หอบหายใจคล่อแคล่ อาการแส่เช่นลูกนก สี่ยามตกสันนิบาต เอาสวาดเจ็ดเมล็ด เผาไฟเสร็จเปนถ่านดำ ละลายน้ำปูนแดงใส กินเข้าไปถ้วยเดียวเหือด

๖. ป่วงเลือด
ลงไหลเจื้อย หาวหอบเหนื่อยบ่นเพ้อพึม ในตาซึมผิวกายเหลือง ทำหงอยเงื่องให้วางใจ เหมือนเปนไข้สันนิบาตคลั่ง เปนที่ตั้งเจ็ดวันตาย เร่งขวนขวายแต่แรกเปน เอาฝางเสนแก่นไม้สัก ไม่เอาหนักสิ่งละมือกำ เมล็ดมะกอกจำไว้ห้าเมล็ด เผาไฟเสร็จวางไว้ แล้วเอาไส้ขนุนละมุด อย่าไปขุดเอาที่ต้น เอาไส้ผลที่สุกแล้ว สารส้มแก้วหนักกึ่งบาท ห้าสิ่งขาดออย่าเฉลียว ต้มเขี้ยวสามเอาหนึ่ง กิน บ หึงก็พลันหาย

๗. ป่วงน้ำ
ชายจะทำฤทธิ์ ลงแล้วติดข้างคลื่นเหียน ให้อาเจียนไม่หายเหือด ผิวกายเผือดพึงยล หนาวสกลกายอุ่นดี กาละสิงคลีเปนเจ้าของ ล่วงเข้าสองยามตาย  สี่ยามกลายเปนสันนิบาต อย่าประมาทเร่งแก้ทำ เปลือกกุ่มน้ำกุ่มบกนั้น อีกหญ้าพันงูแดง สามสิ่งแรงเสมอภาค เปลือกมะกอกถากเอากึ่งยา ต้มแล้วหากาบหมาก  หงายอ้าปากพอละจั่น ยังไม่ทันจะหลุดหล่น เผาไฟป่นเปนถ่านดำ ใส่ในน้ำยาต้ม กินสองอมรากลงหยุด

๘. ป่วงโกฐ
เกิดเพราะโทษลมกระสายกล่อน ลงรากร้อนทั้งลำคอมือเท้าฝ่อซีดเหี่ยว เสโทเหนียว กายเปนเหน็บ ดูต้นเล็บโลหิตคล้ำ โรครันทำเร่งรักษา จะวางยาให้ติดร้อน พริกไทยล่อนข่ากระชาย บดละลายน้ำลูกยอ ต้มแต่พอได้รส อาการงดพอสบาย สี่ยามคลายจับหัวเหน่า ปิดหนักเบาร้อนภายใน สำคัญว่าไข้หลงแก้ เตโชแปรระส่ำระสาย สำแดงฝ่ายเทวะทูต มรณะญาณสูตร์กำหนดแน่ หมอเร่งแก้อย่าช้า ใบขี้เหล็กมาประมาณกำ อีกฟองน้ำปูนผง ใส่หม้อลงต้มเขี้ยวกินถ้วยเดียวหนักเบาคลาย ถ้าไม่หายย้ายเหน็บล่าง จึงจะวางยาต่อไป นี่บอกไว้ตามสถาน ป่วงแปดประการดังนี้

      อนึ่ง ยามีแก้ต้นสันนิบาต สองคลองธาตุระส่ำระสาย ประคำดีควายเอาแต่เนื้อ ชั่งอย่าเผื่อสองบาทเผา เมล็ดมะกอกเล่าเอาตำลึง เผาแล้วจึ่งตำบด ใบทองหลางสดใบมนแท้ ใส่ลงแต่พอควร สีดำนวลอย่าให้เขียว บดทีเดียวปั้นแท่งไว้ กินเมื่อใดจึ่งละลาย น้ำกระสายอีกที กะปิดีเท่าเมล็ดบัว เผาไฟทั่วสุกโชน หัวหอมโทนสามศีร์ษะ  ถั่วเขียวกะสามหยิบงาม ข้ออ้อยสามเอาที่แดง ใส่ไฟแรงต้มกระสาย น้ำละลายกิน สามถ้วยรินหายขาด แก้สันนิบาตสองคลอง

      ยาหม้อแก้อาเจียน
แก่นสน จันทน์เทศ เทพธาโร ขิงแห้ง หัวแห้วหมู ลูกผักชี ลูกมะตูมอ่อน รากช้าพลู หญ้าตีนนก รากแฝกหอม หัวหอม หัวตะไคร้ ผลยอเผาไฟ พอสุก หนักสิ่งละ ๑๕ กรัม หรือพอสมควร ตัวยาทั้งหมดรวมกันต้มให้เดือด จิบบ่อยๆ ( จากนิตยสารหมอชาวบ้าน เล่ม ๕๒ )     



ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น